แขกผู้มีเกียรติ

วันศุกร์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

มีรถ VS ไม่มีรถ


                  สายันต์สวัสดิ์ทุกท่านสำหรับค่ำคืนนี้ผมจะมาให้ความเห็นในเรื่องพาหนะครับผมหลายท่านคงทราบดีว่ารถยนต์คือยานพาหนะที่สำคัญอย่างหนึ่งเลยทีเดียวเนื่องจากสามารถนำเราไปถึงจุดหมายที่ไม่ไกลมากได้สะดวกแต่ทว่าการจะซื้อรถยนต์สักคันต้องแลกกับเงินจำนวนมากเลย ทั้งค่ารถ ค่าน้ำมัน ค่าบำรุงรักษา ถามว่ามันคุ้มค่ากันไหม? ลองมาดูกันดีกว่าว่า การมีรถกับไม่มีรถขับ เป็นอย่างไร



                 ตัวกระผมเองนั้นยังไม่มีรถขับครับแต่ตอนเช้าจะไปมหาวิทยาลัยแม่ผมจะให้ผมเป็นคนขับรถของแม่ไปแล้วแม่จะขับกลับเผื่อว่าที่บ้านมีเหตุฉุกเฉินต้องใช้รถอย่างเร่งด่วนทำให้เวลาผมกลับบ้านก็ยังต้องใช้บริการรถเมล์อยู่ซึ่งเหตุการณ์นี้ทำให้ผมมีความคิดแยกไปเป็น 2 ทาง ครับ 


                 1. อยากมีรถยนต์เป็นของตัวเอง เพราะว่ามันสะดวกต่อการเดินทางมากสำหรับตัวผมที่บ้านอยู่ห่างจากมหาวิทยาลัยมากพอสมควร พระรามสอง - ศาลายา การเดินทางด้วยรถเมล์กินเวลาไม่น้อยกว่าชั่วโมงครึ่งในแต่ละวันซ้ำร้ายรถเมล์สายที่ผมต้องขึ้นก็เป็นรถที่แล่นระยะไกลมากทำให้มีมาน้อยอย่างต่ำๆก็ครึ่งชั่วโมงต่อหนึ่งคัน ทำให้ผมรู้สึกว่าการมีรถยนต์คงช่วยเรื่องการเดินทางผมได้ในระดับหนึ่ง อีกข้อหนึ่งคือเวลาขนย้ายของก็สะดวกการที่มีหนังสือเล่มใหญ่แฟ้มเล่มหนาทำให้เวลาอยู่บนรถเมล์ค่อนข้างลำบาก ( โดยเฉพาะวันที่ไม่มีที่นั่ง ) และรถเมล์จำเป็นต้องจอดป้ายเพื่อรับ-ส่งผู้โดยสารเป็นระยะๆด้วยเส้นทางที่ใช้ก็ค่อนข้างอ้อมพอสมควร ครั้นบางครั้งจะใช้แท๊กซี่ก็แพงพอสมควรด้วยราคา 200 บาท ดังนั้น รถยนต์ส่วนตัวคันเล็กๆราคาไม่แพงมากก็เพียงพอแล้วสำหรับผม



                  2. ไม่ต้องมีรถยนต์หรอก รถยนต์ส่วนตัวแม้จะสะดวกสบายแต่ก็มีค่าใช้จ่ายสูงในระดับหนึ่ง ในส่วนของค่าน้ำมันซึ่งคาดว่าเพียงเดินทางไป-กลับ มหาวิทยาลัยก็คงตีค่าได้ 1 ถัง หรือ ราวๆ 1,500 บาท และยังต้องบำรุงรักษาให้ดีไม่ให้มีความผิดพลาดในเรื่องของระบบการทำงานด้วย เรียกได้ว่าเป็นค่าใช้จ่ายที่จำเป็นหากไม่เกิดพวกอุบัติเหตุเลยปัญหาที่สำคัญอีกหนึ่งข้อคงจะเป็นเรื่องที่จอดรถเนื่องจากมหาวิทยาลัยของผมค่อนข้างมีชื่อเสียงในประเทศไทยทำให้มีนักศึกษามากทำให้การหาที่จอดรถนั้นมีความยากลำบากมากขึ้น มิฉะนั้นก็ต้องรีบไปแต่เช้าก่อนจะเข้าเรียนสายเพราะขับวนหาที่จอดรถและเสียค่าน้ำมันไปกับการวนไปมานั่นเอง ถ้าโชคร้ายได้ที่จอดไกลจากตึกเรียนก็ต้องเดินเอาละครับไม่ก็รอรถแทรมของมหาวิทยาลัย ประเทศไทยรถก็ติดมากแล้วเพราะรถมีแต่ถนนไม่มีการเจอรถติดนี่ก็เซ็งมากเลยแหละครับเหยียบเบรคจนเมื่อยไปข้างเลยทีเดียว



                ฟังดูแล้วเป็นอย่างไรบ้างครับคิดจะมีรถกันมั้ยเอ่ยสำหรับตัวผมผมขอแนะนำว่า ถ้าครอบครัวของคุณมีฐานะเพียงพอที่จะซื้อรถได้และคุณก็สามารถทำงานพิเศษเพื่อช่วยหารายได้ให้ครอบครัวและคุณเองแล้ว การมีรถสักคันก็ไม่ได้เลวร้ายนักแค่ใช้ความอดทนหน่อยแต่ก็มีความสะดวกสบายในการเดินทางตอบแทนมา แต่ถ้าครอบครัวของคุณไม่ได้มีฐานะพอที่จะมีรถอีกสักคันหนึ่งผมคิดว่าอย่าไปดันทุรังซื้อมาใช้เลยครับจะกลายเป็นภาระไปเปล่าๆใช้ความอดทนมากขึ้นหน่อย บริหารเวลาให้ดี อย่าไปน้อยใจใครเขาเลย ขึ่นรถเมล์ประหยัดเงินได้เยอะเหมือนกันสักวันหนึ่งเราก็สามารถมีรถยนต์ได้เหมือนกันถ้าเราวางแผนชีวิตและทำสำเร็จได้ด้วยดี



                   สำหรับคนที่คิดจะซื้อรถแล้วขอให้ลองมาอ่านบทความสั้นๆนี้ดูและนำไปประกอบการตัดสินใจสักหน่อยนะครับ เพื่อช่วยลดภาระให้แก่ตัวเองด้วย ภาวะมลพิษในประเทศด้วย และที่สำคัญสำหรับผู้ที่คิดจะซื้อหรือมีรถอยู่แล้ว ขับขี่ระมัดระวังกันด้วยนะครับ บ๊ายบาย

               

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น